ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนตุลาคม 2568
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 47,032 คัน เพิ่มขึ้น 24.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 18,348 คัน เพิ่มขึ้น 21.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 5,677 คัน เพิ่มขึ้น 37.2% ส่วนแบ่งตลาด 12.1%
อันดับที่ 3 อีซูซุ 5,278 คัน ลดลง 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 11.2%

2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 19,291 คัน เพิ่มขึ้น 24%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 7,133 คัน เพิ่มขึ้น 36.9% ส่วนแบ่งตลาด 37.0%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 3,552 คัน เพิ่มขึ้น 5.7% ส่วนแบ่งตลาด 18.4%
อันดับที่ 3 เอ็มจี 1,624 คัน เพิ่มขึ้น 115.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.4%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 27,741 คัน เพิ่มขึ้น 27.8%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 11,215 คัน เพิ่มขึ้น 12.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 5,278 คัน ลดลง 13.4% ส่วนแบ่งตลาด 19.0%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 2,125 คัน เพิ่มขึ้น 173.1% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%

4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 13,572 คัน เพิ่มขึ้น 1.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 6,246 คัน เพิ่มขึ้น 7.9% ส่วนแบ่งตลาด 46%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 4,371 คัน ลดลง 16% ส่วนแบ่งตลาด 32.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,430 คัน เพิ่มขึ้น 8.7% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,450 คัน
โตโยต้า 1,385 คัน -– เกรท วอลล์ มอเตอร์ 766 คัน -– อีซูซุ 663 คัน -– ฟอร์ด 556 คัน – มิตซูบิชิ 80 คัน – นิสสัน 0 คัน
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 10,122 คัน ลดลง 7.1%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 4,861 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 48.0%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 3,708 คัน ลดลง 11.7% ส่วนแบ่งตลาด 36.6%
อันดับที่ 3 ฟอรด์ 874 คัน เพิ่มขึ้น 8.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%

สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม – ตุลาคม 2568
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 495,001 คัน เพิ่มขึ้น 3.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 186,148 คัน เพิ่มขึ้น 2.1% ส่วนแบ่งตลาด 37.6%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 58,781 คัน ลดลง 17.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.9%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 56,686 คัน ลดลง 9.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.5%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 193,395 คัน เพิ่มขึ้น 4.3%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 65,912 คัน เพิ่มขึ้น 22.0% ส่วนแบ่งตลาด 34.1%
อันดับที่ 2 ฮอนด้า 32,210 คัน ลดลง 13.7% ส่วนแบ่งตลาด 16.7%
อันดับที่ 3 บีวายดี** 15,864 คัน ลดลง 2.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.2%
**อ้างอิงจากยอดจดทะเบียนรถยนต์ใหม่ระหว่างวันที่ 01–31 ตุลาคม 2568 จากเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 301,606 คัน เพิ่มขึ้น 4.2%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 120,236 คัน ลดลง 6.3% ส่วนแบ่งตลาด 39.9%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 58,781 คัน ลดลง 17.6% ส่วนแบ่งตลาด 19.5%
อันดับที่ 3 ฮอนด้า 24,476 คัน ลดลง 2.5% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*)
ปริมาณการขาย 152,082 คัน ลดลง 8.9%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 68,670 คัน ลดลง 10.1% ส่วนแบ่งตลาด 45.2%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 50,506 คัน ลดลง 18.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 15,235 คัน ลดลง 12.5% ส่วนแบ่งตลาด 10%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 34,810 คัน
โตโยต้า 11,861 คัน – อีซูซุ 9,205 คัน – เกรท วอลล์ มอเตอร์ 6,228 คัน – ฟอร์ด 5,892 คัน – มิตซูบิชิ 1,329 คัน – นิสสัน 295 คัน

5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 117,272 คัน ลดลง 14.7%
อันดับที่ 1 โตโยต้า 56,809 คัน ลดลง 14.1% ส่วนแบ่งตลาด 48.4%
อันดับที่ 2 อีซูซุ 41,301 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 35.2%
อันดับที่ 3 ฟอร์ด 9,343 คัน ลดลง 13.3% ส่วนแบ่งตลาด 8.0%
- ตลาดรถยนต์เดือนพฤศจิกายน มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากผู้บริโภครอแคมเปญใหญ่ปลายปีในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42 ที่จะเริ่มขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายน ทำให้การตัดสินใจซื้อชะลอตัว ขณะเดียวกัน อัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังอยู่ในระดับสูง ยังคงกดดันความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ อย่างไรก็ตามตลาดรถยนต์ยังมีปัจจัยบวก ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกสำหรับตลาดรถยนต์ในช่วงปลายปีจากมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ” ผ่านกลไกการค้ำประกันสินเชื่อของ บสย. ที่มีการขยายการค้ำประกันสินเชื่อไปยังผู้ให้บริการสินเชื่อประเภท Non-Bank รวมทั้ง ลีสซิ่งของค่ายรถยนต์ (Captive Finance) ช่วยให้ SMEs รายย่อยสามารถเข้าถึงบริการสินเชื้อได้ครอบคลุมยิ่งขึ้น
